เมนู

มหานามสิกขาบทที่ 7


ในสิกขาบทที่ 7 มีวินิจฉัยดังนี้:-

[แก้อรรถ เรื่องท้าวมหานามปวารณาเภสัช ]


พระโอรสแห่งพระเจ้าอาว์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า แก่กว่าพระผู้มี-
พระภาคเจ้าเพียงเดือนเดียว เป็นพระอริยสาวก ดำรงอยู่ในผลทั้ง 2 ทรงพระ
นามว่า ท้าวมหานาม.
สามบทว่า เภสชฺชํ อุสฺสนฺนํ โหติ มีความว่า เนยใสที่เขานำ
มาจากดอกเก็บไว้มีเป็นอันมาก.
บทว่า สาทิตพฺพา มีความว่า ภิกษุไม่พึงปฏิเสธในสมัยนั้นว่า ไม่
มีโรค พึงรับไว้ด้วยใส่ใจว่า เราจักขอในเมื่อมีโรค.
สามบทว่า เอตฺตเกหิ เภสชฺเชหิ ปวาเรมิ มีความว่า เขาปวารณา
ด้วยอำนาจชื่อ คือ ด้วยเภสัช 2-3 อย่าง มีเนยใสและ น้ำมันเป็นต้น หรือ
ด้วยอำนาจจำนวน คือ ด้วยกอบ 1 ทะนาน 1 อาฬหกะ 1 เป็นต้น .
สามบทว่า อญฺญํ เภสชฺชํ วิญฺญาเปติ มีความว่า เขาปวารณา
ด้วยเนยใส ขอน้ำมัน เขาปวารณาด้วยอาฬหกะ ขอโทณะ.
สองบทว่า น เภสฺชฺชํ กรณีเย มีความว่า ถ้าภิกษุอาจเพื่อดำรง
อัตภาพอยู่ได้ แม้ด้วยภัตระคนกัน ชื่อว่า กิจจะพึงทำด้วยเภสัชไม่มี.
บทว่า ปวาริตานํ มีความว่า ไม่เป็นอาบัติแก่พวกภิกษุที่คนของตน
ปวารณาไว้ ด้วยการปวารณาเป็นส่วนบุคคล เพราะการออกปากขอตามสมควร
แก่เภสัชที่ปวารณาไว้. แต่ในเภสัช ที่เขาปวารณาด้วยอำนาจแห่งสงฆ์ ควรกำหนด
รู้ประมาณทีเดียวแล. คำทีเหลือตื้นทั้งนั้น.
สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐาน 6 เป็นกิริยา โนสัญญาวิโมกข์ อจิตตกะ
ปัณณัตติวัชชะ กายกรรม วจีกรรม มีจิต 3 มีเวทนา 3 ดังนี้แล.
มหานามสิกขาบทที่ 7 จบ

อเจลกวรรค สิกขาบทที่ 8


เรื่องพระฉัพพัคคีย์


[562] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น พระเจ้า
ปเสนทิโกศลทรงยกกองทัพออก พระฉัพพัคคีย์ได้ไปดูกองทัพที่ยกออกแล้ว
พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทอดพระเนตรเห็นพระฉัพพัคคีย์กำลังเดินมาแต่ไกล
เทียว ครั้นแล้วรับสั่งให้นิมนต์มาตรัสถานว่า พระคุณเจ้าทั้งหลายมาเพื่อประ-
สงค์อะไร เจ้าข้า.
พระฉัพพัคคีย์ถวายพระพรว่า พวกอาตมภาพประสงค์จะเฝ้ามหา-
บพิตร.
พระเจ้าปเสนทิโกศลรับสั่งว่า จะได้ประโยชน์อะไรด้วยการดูดิฉันผู้
เพลิดเพลินในการรบ พระคุณเจ้าควรเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ามิใช่หรือ.
ประชาชนพากันเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉน พระสมณะเชื้อ
สายพระศากยบุตรจึงได้พากันมาดูกองทัพซึ่งยกออกแล้วเล่า ไม่ใช่ลาภของพวก
เรา แม้พวกเราที่พากันมาในกองทัพ เพราะเหตุแห่งอาชีพ เพราะเหตุแห่ง
บุตรภรรยาก็ได้ไม่ดีแล้ว.
ภิกษุทั้งหลายได้ยินประชาชนเหล่านั้น พากันเพ่งโทษติเตียนโพนทะนา
อยู่ บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย . . . ต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉน พระ-
ฉัพพัคคีย์จึงได้ได้ไปดูกองทัพที่ยกออกไปเล่า แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี
พระภาคเจ้า . . .